กลุ่มนักวิทย์ระดับสูงอังกฤษเตือน อาจเกิด ‘โควิดกลายพันธุ์’ตัวใหม่ในอนาคต ชี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง และทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 1 ใน 3
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (SAGE) ของรัฐบาลอังกฤษ ตีพิมพ์รายงาน เตือนความร้ายกาจของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตในอัตราสูงเหมือนกับโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ MERS ซึ่งมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 35% ของผู้ติดเชื้อ หรือเสียชีวิต 1 ราย ต่อผู้ติดเชื้อ 3 ราย
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ระดับสูงของรัฐบาลอังกฤษเผยถึงภัยคุกคามของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรืออีกไม่นานข้างหน้าว่า อาจเป็นโควิดกลายพันธุ์ระดับซุปเปอร์ ที่อาจต้านทานวัคซีนโควิดที่ทั่วโลกกำลังเร่งฉีดให้แก่ประชาชนกันอยู่ในขณะนี้ หากเชื้อซุปเปอร์โควิดกลายพันธุ์นี้ เป็นการรวมกันของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ตัวร้ายในเวลานี้ ได้แก่ โควิดสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) มารวมกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) หรือเชื้อโควิดเดลตา (อินเดีย)
SAGE ชี้ว่า การรวมกันของเชื้อโควิดกลายพันธุ์เหล่านี้ อาจนำไปสู่การเกิดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่มีความแข็งแกร่ง จนทำให้ผู้ติดเชื้อ เกิดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
ทีมนักวิทยาศาสตร์ SAGE ยอมรับว่าวัคซีนสามารถต้านทานเชื้อโควิด-19 ได้ หากไม่เจอกับเชื้อโควิดกลายพันธุ์พิเศษ ซึ่งจะทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยลงไปมาก พร้อมทั้งยังระบุด้วยว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเชื้อซุปเปอร์โควิดกลายพันธุ์นั้น ‘มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง’ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อจำนวนผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักร