Warrior Ss2 HBO Go การกลับมาของซีรี่ย์จีน กังฟู+แก๊งสเตอร์

Warrior Ss2 HBO Go การกลับมาของซีรี่ย์จีน กังฟู+แก๊งสเตอร์ สร้างจากไอเดียดั้งเดิมของ บูร๊ซ ลี ผู้นำกังฟูจีนเข้ามาสู่โลกฮอลลีวูด เรื่องนี้จึงเป็นซีรีส์จีนที่สร้างแล้วฉายในสหรัฐอย่างเต็มตัวเรื่องแรก สำหรับการกลับมาในซีซันสอง ยังคงสไตล์เดิมจากซีซันแรก ที่ผสมผสานระหว่าง กังฟู + แก๊งสเตอร์ กับเรื่องแนวอาชญากรรมในไชน่าทาวน์

ด้านกังฟูและวิชาต่อสู้ต่างๆในเรื่องนี้จะเป็นแนวเน้นความสมจริง ดิบเถื่อน ต่อยเตะอัดกันเลือดทะลัก ซึ่งตัวเอกในเรื่องคือ อาซาม จะใช้วิชากังฟูในสไตล์เดียวกับของ บรู๊ซ ลี ที่ได้เอาวิชากังฟูโบราณมาตัดท่าฟุ่มเฟือยออก เรียกว่า จิตคุนโต ดังนั้นแฟนหนังกังฟูจากยุค 60-80 รับรองว่าชอบเรื่องนี้แน่นอน

เรื่องราวต่อเนื่องจากในซีซันแรก จับเหตุการณ์ภายในไชน่าทาวน์ ณ เมืองซานฟรานซิสโก ในปี ค.ศ. 1878 เรื่องราวของ อาซาม ชายหนุ่ม “นักรบ” ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากจีนแผ่นดินใหญ่มาถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อตามหาตัวน้องสาวของเขา แต่แล้วเขาก็พบว่าน้องสาวคือ หม่ายหลิง ได้ตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ในสงครามระหว่างแก๊งค์ของไชน่าทาวน์ และไม่คิดจะกลับแผ่นดินจีนแล้ว

นั่นทำให้อาซามจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในไชน่าทาวน์ต่อไป รวมถึงค้นหาเส้นทางของ “นักรบ” ที่ต้องต่อสู้กับเหล่ายอดฝีมือเสือซุ่มมังกรซ่อนภายในไชน่าทาวน์ ความขัดแย้งกับคนผิวขาว การปะทะกันระหว่างสามแก๊งค์ใหญ่ กับต่อสู้กลุ่มคนไอริช และความทะเยอทะยานที่จะครอบครองสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบทำธุรกิจเถื่อนภายในแก๊งค์ รวมถึงเรื่องความรักต้องห้ามอย่างลับๆกับหญิงสาวที่เป็นคนผิวขาวอย่าง เพนนี ภรรยาของนายกเทศมนตรีที่สองฝ่ายต่างมีใจให้กัน และ ยังมีเรื่องความร่วมมือกับ อาโถ่ว หญิงสาวที่ฉากหน้าคือแม่เล้าครองซ่องใหญ่ แต่เบื้องหลังกลับทำตัวเป็นนักรบศาลเตี้ยยามวิกาลที่ออกไปเล่นงานผิวขาวที่ทำร้ายชาวจีนด้วย

โดยในช่วงแรกของซีซัน เราจะพบว่าอาซามมีความกระตือรือร้นในการสร้างรายได้และธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะทำมาก่อนในซีซันแรก เขาเริ่มจากการเสนอไอเดียลอบการค้ากากน้ำตาลให้กับจุนคนลูกโดยติดต่อกับผู้ผลิตในเมืองซานฟรานซิสโกเอง เป้าหมายเพื่อที่จะไม่ต้องผ่านกลุ่มพ่อค้าหลักจากเมืองจีนอีก และเขายังเสนอให้คนของยองจุนไปทำงานคุ้มกันภัยให้กับโรงงานของเพนนีที่กำลังมีปัญหาอยู่ด้วย แต่ถึงจะมุ่งไปที่การสร้างตัว ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามลับฝีมือการต่อสู้ให้กลับคืนมาด้วยการไปประลองบนเวทีมวยเถื่อน เพื่อค้นหาว่าอะไรที่เขาขาดไปในฐานะ “นักรบ” ไปในเวลาเดียวกันด้วย

นอกจากบทของอาซามที่มีพัฒนาการชัดเจนแล้ว ยังมีตัวละครสำคัญอีกหลายคนที่มีการเปลี่ยนแปลงในซีซันสอง ไม่ว่าจะเป็น เพนนี จากภรรยาสาวสวยของนายกเทศมนตรี ที่เป็นชู้รักของอาซาม เธอได้กลายมาเป็นเจ้าของโรงงานของพ่อตนเอง และหาทางพิสูจน์ตัวเองว่าผู้หญิงก็สามารถเป็นเข้าของธุรกิจที่เก่งกาจได้ แล้วเธอยังหวนกลับมาสานสัมพันธ์กับอาซามอีกครั้งด้วยการว่าจ้างให้อาซามและกลุ่มของเขามาทำงานคุ้มกันให้โรงงานของเธอ

แล้วสองตัวละครหญิงสำคัญอย่าง อาโถ่ว และ หม่ายหลิง ในที่สุดก็ได้มาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ซึ่งก็น่าสนใจว่า เรื่องราวจะเขียนบทให้หญิงแกร่งทั้งสองคนที่มีจุดยืนแตกต่างกันได้เผชิญหน้ากันในศึกระหว่างแก๊งค์แบบไหน แถมยังเป็นการเชิดชูความเป็นเฟมินิสต์ และบทบาทของผู้หญิงได้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในสังคมยุคนั้นได้แบบเนียนๆและทำให้เรื่องมันไม่เครียดเกินไปด้วย

ส่วนบรรดาตัวละครใหม่ที่เข้ามามีบทในซีซันสองก็น่าสนใจไมน้อย โดยเฉพาะ โซฟี น้องสาวของเพนนี ที่กลายเป็นคนรักของ เลียรี ผู้นำกลุ่มไอริช ที่ดูเหมือนว่าบทจะพาเขาให้เข้ามาสู่วงการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น และอีกคนคือ ฮ่ง นักสู้หน้าใหม่จากเมืองจีนที่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะกลายมาเป็นพันธมิตรหรือศัตรูของอาซามในภายหลัง แถมเจ้าตัวยังเป็นตัวละครสายชายรักชายอีก

ด้านบทของฝั่งตำรวจอย่าง บิล และ ลี ก็เป็นเส้นเรื่องที่น่าติดตามมากขึ้น เมื่อลีได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บในซีซันแรก แล้วเริ่มระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา ในขณะที่บิลก็ต้องรับมือกับ ซิง แห่งแก๊งค์ฟังไฮ่ ที่กลายมาเป็นขั้วที่สามของศึกระหว่างแก๊งค์ ฮอปเหว่ย และ หลงซี

ด้วยความที่ ซีรีส์วอริเออร์ ให้ความสำคัญกับ คาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆ อย่างสูง จึงทำให้การเขียนบทมีความหลากหลาย ไม่จำเจ น่าติดตาม เพราะทุกคาแรคเตอร์มีความน่าจดจำ และมีความคิดเป็นของตนเองสูงมากด้วย แต่ในขณะเดียวกันการที่เส้นเรื่องตัวละครมีมากขึ้น ทำให้บทของตัวละครรองบางคนที่ปูไว้น่าสนใจในีซันแรกต้องถูกลดบทลง อีกทั้งในซีซันสองดูเหมือนเรื่องกำลังต้องการขยายสเกลไปที่ด้านการเมืองมากขึ้นไปอีก จึงส่งผลทำให้ฉากแอ็กชั่นประจำตอนลดลงพอสมควร สำหรับซีซันสองที่ฉายมาได้ครึ่งทางแล้ว

ดังนั้นคนที่ชอบดูฉากบู๊ด้วยกังฟูอาจจะรู้สึกว่ามันดรอปลงไปหน่อย เพียงแต่การที่เรื่องนี้ไม่ได้เอาแต่บู๊พร่ำเพรื่อเกินไป แถมยังมีการเพิ่มเติมมิติตัวละครต่างๆให้น่าสนใจมากขึ้น ก็ทำให้เรื่องยังคงน่าติดตามอยู่ แล้ววิชาต่อสู้ในเรื่องก็เริ่มขยายจากการเน้นมือเปล่ามาเป็นสายอาวุธเพิ่มเติมอีก ก็ทำให้น่าติดตามว่า ฉากไคลแมกซ์ที่จะมาตอนท้ายซีซัน จะเป็นอะไรที่น่าติดตามเอามากๆ ว่า ที่สุดแล้วบรรดาตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้จะเอาตัวรอดจากสงครามในไชน่าทาวน์ได้ยังไง