รถยนต์ใหม่ 2021 : รักษาสีรถให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดครั้งใหม่ของ COVID-19 ในประเทศไทย ทำให้หลายๆ คนกลับเข้าสู่ฤดูกาลทำงานที่บ้าน หรือ WFH อีกครั้ง บางบ้านก็นำรถเข้าไปจอดในที่จอดรถที่มีหลังคาคอยบังแดด ให้ความร่มรื่น แต่บางบ้านก็อาจมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นอกบ้านเป็นระยะเวลานาน (เพราะไม่ได้ออกไปไหน) แต่ใครจะรู้หรือไม่ว่าการจอดรถทิ้งไว้เฉยๆ โดยไม่ได้นำรถใช้บนถนนที่ไหนนั่นไม่ได้หมายความว่าสีรถของคุณจะไม่เสียหาย ฟอร์ดจึงขอแนะนำวิธีดูแลสีรถให้ดูใหม่เอี่ยมอ่องแม้จอดทิ้งไว้นานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองให้ผู้ใช้รถได้ลองนำมาปรับใช้ในช่วงที่ต้อง WFH แล้วยังต้องเจอกับปัญหาฝุ่น PM2.5 อีกด้วย
ในทุกวันนี้ เจ้าของรถทั่วไปอาจไม่มีเวลาล้างรถด้วยตนเอง จึงนิยมนำรถไปใช้บริการล้างรถตามศูนย์บริการต่างๆ แต่การล้างรถด้วยตนเอง นอกจากจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษาสีรถแล้ว ยังเป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่สามารถช่วยถนอมสีรถได้ดีกว่าการล้างรถด้วยเครื่องล้างรถอัตโนมัติ เพราะขนแปรงของเครื่องล้างรถมีความแข็งและด้านเกินไปจนอาจทำร้ายผิวรถได้ อีกทั้งการใช้สารเคมีที่มีส่วนผสมของเม็ดเกลืออาจจะทำให้สีรถถลอกได้อีกด้วย ตรงกันข้าม หากล้างรถด้วยตนเอง คุณสามารถเลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ซึ่งสามารถจับคราบฝุ่นออกจากตัวรถโดยไม่เหลือสิ่งตกค้างบนผ้าได้
นอกจากนี้ สีของรถยนต์ยังมีความอ่อนไหวต่อของเหลวที่ใช้ในการล้าง หากใช้น้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมเป็นเกลือ และสารเคมีอาจมีผลเสียต่อสีรถ และส่วนประกอบที่ทำจากยางและพลาสติกได้ จึงควรเลือกใช้สบู่เหลวสำหรับล้างรถที่มีค่ากรดต่ำพอดีต่อการถนอมสีรถ สามารถช่วยหล่อลื่น และมีฟองมากเพียงพอที่จะถูคราบสิ่งสกปรกออกได้
เคล็ดลับในการล้างรถให้สะอาด และเป็นการถนอมสีรถที่ดีที่สุดคือ การเตรียมถังน้ำสบู่สำหรับเช็ดถู และน้ำสะอาดสำหรับล้าง แยกไว้ 2 ถัง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่น และสิ่งสกปรกกลับไปถูโดนพื้นผิวตัวถังซึ่งจะทำให้สีรถเป็นรอย โดยควรเช็ดเป็นแนวบนลงล่าง หรือซ้ายไปขวา ไม่ควรเช็ดวนเป็นวงกลม เพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากตัวรถในทางเดียว
ระวังภัยใกล้ตัวที่ทำร้ายสีรถ
ถึงแม้เราจะจอดรถในที่จอดที่มีหลังคา ก็อาจหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่มาพร้อมกับสภาพแวดล้อมกลางแจ้งไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแมลง สัตว์ ฝุ่นละออง หรืออะไรต่างๆ ที่บินหรือลอยเข้ามาโดนรถ เพราะฉะนั้นเจ้าของรถจึงต้องพึงระวังสิ่งเหล่านี้ และรีบล้างทำความสะอาดรถไม่ให้รถมีสิ่งตกค้างติดทนหรือเป็นรอย แมลง และนก สามารถสร้างรอยที่ทำให้ทำความสะอาดยากได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยแมลงที่บินมาชนรถนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด คราบจากแมลงอาจกัดสีรถให้เสียหายได้ ส่วนของเสียจากนก นอกจากมีฤทธิ์เป็นกรดแล้ว ก็ยังอาจมีเมล็ดพืช และผลเบอร์รี่ปะปนอยู่ หากไม่รีบล้าง คราบก็จะฝังแน่นบนผิวสีรถ ทำให้รถไม่สวยงามแวววาว
สิ่งสกปรกต่างๆ ก็ยังเกิดได้จากการเติมน้ำมันล้นถังจนซึมออกมาเปื้อนตัวถัง เมื่อฝุ่นละอองและควันในอากาศลอยมาก็จะจับกับสีตัวรถ จึงควรหมั่นปัดฝุ่น หรือทำความสะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ และที่สำคัญคือไม่ควรลากนิ้วหรือมือบนรถที่มีฝุ่นเกาะ เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้ฝุ่นผง และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนรถอยู่แล้วทิ้งร่อยรอยทำให้กำจัดยากขึ้น
การจอดรถทิ้งไว้เฉยๆ หรือขับไปซื้อของใกล้บ้าน ไม่ได้แปลว่ารถจะไม่ได้รับการขีดข่วนใดๆ เลย เพราะกรวด หิน ดิน ทราย สามารถกระเด็นมาโดนและทิ้งรอยขีดข่วนได้จนสามารถทำให้สีเคลือบเป็นรอย นอกจากการปัดฝุ่นแล้วยังควรกำจัดรอยขีดข่วนด้วยการเคลือบสีด้วย
ดูแลสีรถที่จอดทิ้งไว้นาน
เป็นที่ทราบกันดีว่าการจอดรถทิ้งไว้นานอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อรถได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้หลายๆคนต้องทำงานจากที่บ้าน และต้องจอดรถทิ้งไว้นานกว่าเคย แต่วิธีการการดูแลสีรถที่ต้องจอดทิ้งไว้นานนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
ควรหาที่จอดรถที่เหมาะสม เช่น โรงรถ หรือในอาคารที่ร่ม เพราะแสงแดดและความชื้น จะส่งผลกระทบต่อสภาพและอุปกรณ์รถ ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้ สีรถที่จอดในที่แจ้งเป็นเวลานานจะสะสมความร้อน ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพและสีตัวรถซีดเร็ว
หากจำเป็นต้องจอดรถกลางแจ้ง ควรใช้ผ้าคลุมรถ เพื่อลดการทำร้ายสีรถจากแดดโดยตรง โดยเลือกผ้าคลุมรถแบบกันน้ำและระบายอากาศได้ เพราะผ้าคลุมรถแบบกันน้ำอย่างเดียวจะกักความชื้นและส่งผลกระทบต่อสีภายนอกตัวรถได้ ก่อนคลุมรถ ควรล้างรถให้สะอาดและรถควรแห้งสนิทก่อน เพราะคราบสกปรกอาจขูดขีดสีรถได้เช่นกัน
เจ้าของรถยังควรล้างรถที่จอดกลางแจ้งเป็นเวลานานด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการเอาคราบสกปรกที่อาจติดแน่นและทำร้ายพื้นผิวตัวรถออกแล้ว ยังเป็นการช่วยคลายความร้อนภายในตัวรถอีกด้วย
เทคโนโลยีการพ่นสีรถขั้นสูง
แน่นอนว่า รอยขีดข่วน สีแตกกระเทาะ และสนิม เป็นสิ่งที่ทำให้คนรักรถไม่สบายใจ สำหรับฟอร์ด นอกจากเราจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานเรื่องสีรถเป็นอย่างมากแล้ว เรายังให้ความสำคัญในการทำให้สีรถติดทนนานเพื่อให้รถมีสีสันสวยงามตลอดอายุการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีการพ่นสีพิเศษแบบ 3 Wet (3-Wet Paint Technology) หรือการพ่นสีทับกัน 3 ชั้น และอบสีเพียงครั้งเดียว โดยสีที่ใช้เป็นสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง จึงทำให้มีพื้นผิวหนาและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทนทานต่อการขีดข่วน การแตกกระเทาะและป้องกันการกัดกร่อนของสี ทำให้สีมีความเงางาม และมีความหนา คงทนได้นานขึ้นถึง 56 เปอร์เซ็นต์
กระบวนการเริ่มต้นด้วยการเตรียมความพร้อมของผิวรถเบื้องต้น โดยนำตัวถังรถมาทำความสะอาด และชุบสารกันสนิมด้วยกระแสไฟฟ้า ก่อนที่จะนำมาพ่นสีรองพื้น เพื่อช่วยปกป้องสีรถจากแสงแดดและทำให้สีมีความแข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วนและการแตกกระเทาะได้ดียิ่งขึ้น ต่อด้วยการพ่นสีจริง และการพ่นสีเคลือบผิวรถ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ทำการทดสอบและควบคุมกระบวนการพ่นสีในทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด ด้วยการกำหนดอุณหภูมิ ความหนาของสี และระยะเวลาในการอบที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งหมดนี้ เพื่อส่งมอบรถยนต์มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้าฟอร์ด เพื่อความมั่นใจในความทนทานของสีรถที่จะคงทนยาวนานในทุกสภาพแวดล้อมและการใช้งาน