ร้านอาหาร “พัวกี่” เย็นตาโฟ ถนนพระอาทิตย์ ร้านนี้ถือเป็นร้านเก่าแก่อีกนึงร้าน เปิดมากว่า 70 ปีมีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรมากมาย เมนูทางร้านมีให้เลือกมากมาย มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ต้มยำ เย็นตาโฟ เเห้งน้ำ ครบเครื่อง รสชาติถึงรสถึงใจ นอกจากเย็นตาโฟและก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ คุณลุงเจ้าของร้านยังใจดีอีกด้วยนะ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์ เยื้องป้อมพระสุเมรุ(สวนสันติชัยปราการ)
พูดถึงความอร่อยระดับตำนานของย่านพระอาทิตย์ ย่อมต้องมีชื่อของ ‘พัวกี่’ เย็นตาโฟเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่เยื้องกับป้อมพระสุเมรุ เพราะร้านแห่งนี้ดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานภายใต้เรือนอายุเกือบศตวรรษของบิดา นอกจากรสชาติที่ถูกปากบรรดานักกิน พัวกี่ยังเป็นร้านเย็นตาโฟแห่งแรกที่เปิดขายในย่านนี้
ย้อนถึงความเป็นมาราว 70 ปีที่แล้ว อาคารหลังนี้เคยเป็นร้านเบเกอรีมาก่อน บิดาของ ‘เฮียเอิ้ง’ เจ้าของร้านพัวกี่ในปัจจุบัน ได้นำประสบการณ์จากการเป็นเชฟอาหารหวานในโรงแรมมาเปิดกิจการเบเกอรีของตัวเอง ทว่าต่อมาไม่มีทายาทสืบต่อจึงได้เลิกไป ก่อนที่ภายหลังเฮียเอิ้งและวาสนา ผู้เป็นภรรยา จะตัดสินใจเปิดบ้านเพื่อดำเนินกิจการอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟสูตรดั้งเดิมจากฟากฝั่งของวาสนา กระทั่งพัวกี่กลายเป็นตำนานความอร่อยคู่ย่านพระอาทิตย์ดังเช่นปัจจุบัน
หนึ่งในเสน่ห์ของพัวกี่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือบรรยากาศภายในร้าน เรือนเก่าที่รักษาโครงสร้างตามแบบเดิม ประดับตกแต่งด้วยข้าวของโบราณ ที่นั่งมุมหนึ่งเป็นเก้าอี้ไม้สีเข้มหน้าตาแบบเดียวกับที่เห็นบนขบวนรถไฟ ทั้งสวยงามและคลาสสิกชวนให้ถวิลหาโมงยามในอดีต
แน่นอนว่าเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ย่อมต้องเป็น เย็นตาโฟ เราสืบรู้มาว่าเคล็ดลับความอร่อยของเย็นตาโฟพัวกี่ซ่อนอยู่ในซอส ทางร้านผสมซอสแดงเข้ากับน้ำกระเทียมดอง กระเทียม พริกแดง พริกเหลือง เนื้อเต้าหู้ยี้ที่ปั่นจนละเอียด ก่อนจะเติมงาขาวคั่วลงไปคลุกเคล้า ผสมผสานจนได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
อีกหนึ่งความพิเศษของพัวกี่คือเกี๊ยวกุ้งขนาดเต็มคำ ทางร้านนำกุ้งแชบ๊วยตัวโตมาล้างด้วยโซดาเพื่อลดความคาวและเพิ่มความกรอบเด้งของเนื้อกุ้ง ก่อนจะนำไปคลุกกับน้ำปลา พริกไทย และน้ำตาลเล็กน้อย หมักจนเข้าเนื้อแล้วจึงนำมาห่อกับแผ่นเกี๊ยว
มาเยือนร้านนี้ แนะนำให้ลองสั่ง เกี๊ยวกุ้งเย็นตาโฟ (65 บาท) ครบครันทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย ที่ทางร้านสั่งตรงมาจากเยาวราช เสิร์ฟมาในน้ำซุปเย็นตาโฟ สัมผัสแรกที่เข้าปากรับรู้ถึงรสกลมกล่อมและกลิ่นงาคั่วที่หอมอ่อนๆ ใครที่ชอบความจัดจ้านสามารถปรุงเพิ่มด้วยพริกตำรสเผ็ดเปรี้ยวของทางร้าน
ถ้าถูกใจเกี๊ยวกุ้ง อย่างลังเลที่จะสั่ง เกี๊ยวกุ้งแห้ง (65 บาท) เมนูเครื่องแน่น นอกจากลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย ยังมีหมูบะช่อ รวมถึงพระเอกอย่างเกี๊ยวกุ้งชิ้นโตเนื้อกรอบหวาน เสิร์ฟเคียงมากับน้ำซุปกระดูกหมู หรือคาตั๊งที่เคี่ยวกับใบเตย รากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้รสกลมกล่อมซดคล่องคอ
ไม่เพียงแต่มีเย็นตาโฟและเกี๊ยวกุ้งที่อร่อยเท่านั้น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นใส่กระดูกหมูอ่อน (65 บาท) คืออีกหนึ่งชามที่เด็ดไม่แพ้กัน เนื้อซี่โครงตุ๋นจนนุ่มลิ้น เนื้อร่อนทันทีที่ฟันสัมผัส น้ำซุปต้มยำเข้มข้น หอมถั่วคั่วและพริกเผาทำเอง กลมกล่อมเผ็ดร้อนกำลังดี โรยหน้ามาด้วยหมี่กรอบที่ถูกใจเราเป็นพิเศษ หากใครกลัวเมนูนี้จะเผ็ดเกิน สั่ง ไข่ต้ม (15 บาท) มากินแกล้มในชามได้
เราปิดท้ายมื้ออาหารที่ เย็นตาโฟทะเล (80 บาท) เพราะยังติดใจในซอสเย็นตาโฟ กุ้งและปลาหมึกเนื้อกรอบเด้งเข้ากันได้ดีกับซอสที่เปรี้ยว เค็ม หวาน กลมกล่อม เป็นความอร่อยแบบไม่ต้องปรุง
พัวกี่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธบางลำพู บนถนนพระสุเมรุ ปัจจุบันเปิดกิจการมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยยังคงรักษามาตรฐานความอร่อยได้อย่างคงเส้นคงวา ทุกวันประตูบานเฟี้ยมสีเขียวของร้านจะเปิดต้อนรับผู้มาเยือนตั้งแต่เช้า ตกบ่ายเครื่องเคราบางอย่างจึงอาจหมดก่อนเวลาปิดร้าน ถือเป็นอีกหนึ่งของดีประจำย่านพระอาทิตย์ที่ควรค่าแก่การมาลองสักครั้ง