เตือนดวงครึ่งปีหลัง 64 บทสรุปบ้านเมือง หลังจากมีคนแห่แชร์คำทำนายเหตุการณ์ในเดือน พ.ค. – ก.ย. ที่ “โหรวสุ” วสุวัส คำหอมกุล ทำนายผ่าน FB ส่วนตัวไว้เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 ว่า เดือนพฤษภาคม – กันยายน ให้ระวังจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารขนาดใหญ่ในเมือง
โหรวสุ ได้เปิดคำทำนายดูดวงครึ่งปีหลังฉบับเต็ม 6 เดือนสุดท้าย ปี 2564 บ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม อุบัติเหตุเภทภัยต่างๆ ทั้งนี้ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะคะ
การเมืองในครึ่งปีจะมีแต่ปัญหาการทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพของคณะรัฐมนตรี กับหน่วยงานราชการ ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคประชาชน และธุรกิจที่รู้สึกสับสนกับการประกาศนโยบาย หรือความช่วยเหลือต่างๆ ที่กลับไปกลับมา โดยเฉพาะช่วง ก.ย. – ต.ค. ที่พอมีประกาศนโยบายใดๆ ไปแล้วก็เกิดทะเลาะกันระหว่างหน่วยงานจนต้องยกเลิกประกาศเดิมแล้วกลับมาแก้ไขใหม่ ส่งผลทำให้ช่วงปลายปี สถานะของรัฐบาลจะไม่ค่อยมั่นคงนัก
และอาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และกลุ่มนักธุรกิจเหมือนเก่า รวมถึงการแตกคอกันในพรรคร่วมรัฐบาลทั้งเรื่องแก้ไข รธน. และนโยบายต่างๆ ซึ่งในช่วงเดือน พ.ย. 64 – ก.พ. 65 มีโอกาสสูงที่จะมีการประกาศยุบสภา หรืออาจจะเกิดรัฐประหารยึดอำนาจจากกองทัพในช่วงนั้นด้วย
เศรษฐกิจ ไม่ฟื้นตัว หนี้ล้นไม่พ้นตัว ความเชื่อมั่นในรัฐบาลจากประชาชนไม่เหลือ
ตั้งแต่หลังเดือน ก.ย. 64 เป็นต้นไป ที่ดาวราหูล้วงทรัพย์ในมุมการเงินของดวงเมือง และดาวพฤหัสโคจรเป็นนิจ รัฐบาลอาจจะเริ่มมีการกู้เงินก้อนใหญ่อีกรอบ ซึ่งครั้งนี้น่าจะเป็นการกู้เงินก้อนใหญ่จากต่างประเทศ ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ก้อนโต และสูญเสียอำนาจในการบริหารจัดการนโยบายด้านการคลังเหมือนในช่วงปี 2541 ซึ่งอาจจะทำให้ช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค. 64 รัฐบาลมีมาตรการ หรือนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร ภาคธุรกิจการลงทุน และการจัดเก็บภาษีของประชาชน
ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องที่ทำให้เสถียรภาพ และความเชื่อมั่นของรัฐบาลตกต่ำลงในเรื่องการเมือง และยังทำให้เศรษฐกิจปลายปีที่พอจะฟื้นตัวกลับมานั้น กลายเป็นไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่นัก เพราะพอเข้าต้นปี 2565 ที่มาตราการ หรือนโยบายดังกล่าวนั้นเริ่มมีผลบังคับใช้ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมาตกต่ำ และมีปัญหาอีกครั้งเหมือนช่วงกลางปี 2564
ก.ย.-ต.ค. 64 โรคโควิดระบาดอย่างต่อเนื่อง
คดีความขึ้นโรงขึ้นศาลจากการฟ้องร้องทวงหนี้ตระกูลดัง และการฉ้อโกงจากการลงทุนของบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม ซึ่งในช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. 64 ส่วนเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด ยังคงจะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือน ต.ค. 64 ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตถึงจะเริ่มลดลงมาบ้างเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี
อย่างไรก็ตามจำนวนของผู้ติดเชื้อยังคงมีตัวเลขคงที่ต่อไปจนถึงต้นปี 2565 ซึ่งช่วงต้นปี 2565 ช่วงเดือนม.ค. – ก.พ. 65 ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโควิดรอบ 4 ซึ่งอาจจะซ้ำเติมให้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในช่วงนั้นให้แย่ลงไปอีก
ประกอบสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในช่วงปลายปี 2564 จะทำให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงต้นปี และจะทำให้คนตกงานเลือกที่จะก่ออาชญากรรม และทำธุรกิจสีเทากันมากขึ้น การเติบโตของธุรกิจสีเทาจะทำให้เกิดกลุ่มผู้มีอิทธิพล และเจ้าพ่อรายใหม่ที่จะเข้ามามีอิทธิพลในสังคม และการเมืองช่วงปี 2565
ดวงเมืองยังมีคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ โรงงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานที่เป็นตึกสูง รวมถึงอาจจะมีการระเบิดขนาดใหญ่ของน้ำมัน แก๊ส หรือวัตถุไวไฟต่างๆ ที่อยู่ในภายใน และการถล่มของไซต์งานก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นพวกคอนกรีต หรือโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ ที่จะทำให้มีคนเสียชีวิตหลายรายในในช่วงเดือน ก.ค. – ก.ย. 64